1) User-Friendly
การออกแบบเว็บไซต์ให้ง่ายต่อการใช้งาน เลือกสินค้าง่าย หาข้อมูลง่าย เพราะวัตถุประสงค์ที่แท้จริงของการออกแบบเว็บไซต์ E-commerce ก็คือ การอำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้าที่เข้ามาใช้งาน
2) Mobile - Friendly Website
นอกจากอำนวยความสะดวกแล้ว เว็บไซต์ยังต้องรองรับการใช้งาน การชำระเงิน ผ่านทางการใช้งานมือถือ และ อุปกรณ์อื่น ๆ ด้วย
3) ภาพประกอบเว็บไซต์ต้องคมชัด
ภาพสินค้าที่ใช้ ไม่ใช่แค่ถ่ายแค่พอลง ยังต้องทำให้คมชัด และชัดเจน เพื่อดึงดูดความต้องการของลูกค้า เพราะลูกค้าส่วนใหญ๋ต้องการเห็นภาพสินค้าหลากหลายมุม และสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกัน รวมกถึงการซูมเข้าซูมออกจะให้ความรู้สึกที่แตกต่างกันด้วย
4) โปรโมชั่น ข้อเสนอที่น่าสนใจ
การจัดแคมเปญโปรโมชั่น หรือ กิจกรรมทางการตลาด ช่วยกระตุ้นให้เกิดการซื้อ ซึ่งสามารถสร้างยอดขายได้ไม่ยาก
5) ระบบสั่งซื้อ/ตะกร้าสินค้า
เป็นระบบที่ขาดไม่ได้ ต้องเป็นฟีเจอร์ที่สามารถเลือกซื้อส้นค้าบนเว็บไซต์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
6) Search & Filter
ฟีเจอร์ Search & Filter เป็นองค์ประกอบที่สำคัญอย่างหนึ่งสำหรับเว็บไซต์ E-commerce เพราะลูกค้าส่วนใหญ่ไม่รู้ว่าเว็บไซต์ของเรามีสินค้าอะไรบ้าง ฟีเจอร์นี้จะช่วยให้ลูกค้าตามหาสินค้าที่ต้องการได้
7) สินค้าที่เกี่ยวข้อง
การแนะนำสินค้าที่มีความเกี่ยวข้อง หรือ ใกล้ เป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้าที่เข้ามาช้อปในเว็บไซต์ หากคนที่เข้ามาไม่พบสินค้าที่ต้องการ หรือสินค้านั้นหมดสต๊อก ระบบแนะนำสินค้าที่เกี่ยวข้อง จะช่วยเพิ่มโอกาสสร้างยอดได้
8) Social Proof
คือการใช้บุคคลมาบอกต่อกับลูกค้า เพื่อช่วยสร้างความน่าเชื่อถือ เป็นอีกหนึ่งเทคนิคที่ช่วยโน้มน้าวลูกค้าให้กล้าตัดสินใจซื้อ อธิบายให้เข้าใจได้ง่าย ๆ
มี 5 ประเภท คือ
1.การทำให้ผู้เชี่ยวชาญมายืนยัน
2.การใช้ผู้ที่มีชื่อเสียง มาบอกเล่าสินค้า
3.การให้ผู้ใช้งานจริงมาบอกต่อ
4.การบอกปากต่อปาก จากคนใกล้เคียง
5.การใช้สิ่งที่คนกำลังให้ความสนใจนำเสนอ
9) ความปลอดภัยของเว็บไซต์
ความปลอดภัยเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด โดยส่วนใหญ่มักตกเป็นเป้าหมายของอาชญากรไซเบอร์ หน้าที่ของเราคือสร้างความปลอดภัยให้กับลูกค้า การใช้ SSL หรือเว็บไซต์เป็น HTTPS จะช่วยให้มีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
10) ช่องทางการรับชำระเงิน
เว็บไซต์ต้องมีช่องการชำระเงินที่หลากหลายให้แก่ลูกค้า รับได้ทั้งบัตรเดบิต และบัตรเครดิต เพราะเป็นส่วนหนึ่งการให้ความสะดวกแก่ลูกค้าที่มาใช้งาน
11) ข้อมูลการจัดส่งสินค้า
เว็บไซต์ที่ดีต้องมีการบอกรายละเอียดของการจัดส่งสินค้า ผู้ให้บริการขนส่งเป็นใคร มีกี่ตัวเลือก และใช้เวลานานเท่าไหร่ ทำให้ลูกค้าตัดสินใจมากขึ้น
12) หน้าติดต่อเรา
การสร้างหน้าเพจ Contact us หรือ ติดต่อเรา บอกรายละเอียดที่อยู่ และช่องทางการติดต่อของเราไว้อย่างชัดเจน เพื่อให้ลูกค้าอุ่นใจว่าสามารถติดต่อเราได้หากปัญหา
13) นโยบายการคืนสินค้า
กรณีที่ลูกค้าไม่พอใจสินค้าที่ได้รับ และมาจากหลายสาเหตุ สินค้าอาจบกพร่อง เกิดการชำรุดและอื่นๆแน่นอนว่าสิ่งที่ลูกค้าต้องการคือการขอเปลี่ยน และขอคืนเงิน
ขอขอบคุณข้อมูลจาก MakeWebWasy