บทความ
13 คุณสมบัติที่เว็บไซต์ E-Commerce ควรมี
13 คุณสมบัติที่เว็บไซต์ E-Commerce ควรมี
การตลาดออนไลน์ (Online Marketing)
การตลาดออนไลน์ (Online Marketing)
ในยุคนี้ไม่ว่าใครก็ต้องเริ่มหันมาทำการตลาดออนไลน์กันทั้งนั้น เป็นที่ทราบกันดีว่าปัจจุบันธุรกิจออนไลน์กำลังเจริญเติบโต สาเหตุก็เพราะต้องปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบัน สังคมออนไลน์ หรือสังคมแห่งโลกโซเชียล ไม่ว่าจะเป็นเด็ก วัยรุ่น หรือผู้สูงอายุต่างพากันนิยมชมชอบกระแสเหล่านี้จนกลายเป็นอีกหนึ่งวัฒนธรรม ผู้คนเสพสื่อผ่านอินเตอร์เน็ตมากยิ่งขึ้น หากธุรกิจไม่ปรับตัวให้ทันตามเหตุการณ์บ้านเมืองก็อาจก่อให้เกิดความล้าสมัย และเป็นอันต้องพ่ายแพ้ให้กับธุรกิจคู่แข่งเพราะโดนแย่งส่วนแบ่งทางการตลาดไปจนหมดสิ้น
การตลาดออนไลน์ (Online Marketing) คือ การทำการตลาดผ่านการโฆษณาบนสื่อออนไลน์ เช่น Facebook Twitter, Instagram, YouTube , ตลอดจนการโฆษณาบนเว็บไซต์ หรือ Google ฯลฯ อีกมากมาย ผ่านการใช้งานบนอินเตอร์เน็ต
การตลาดออนไลน์มีความสำคัญอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการตลาดที่ทำผ่านข้อความ ตัวอักษร รูปภาพ หรือวิดีโอ ที่กำลังได้รับความนิยมในปัจจุบัน นอกจากจะช่วยให้สามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้อย่างกว้างขวางแล้ว ยังเป็นการประหยัดต้นทุนอีกด้วย โดยประโยชน์ของการตลาดออนไลน์ มีดังต่อไปนี้
1) เข้าถึงลูกค้าจำนวนมาก
ในโลกออนไลน์เป็นโลกแห่งการสื่อสารที่ไร้พรมแดน ดังนั้น การทำการตลาดออนไลน์จะช่วยให้สามารถเข้าถึงกลุ่มคนได้มากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังสามารถเข้าถึงลูกค้าได้เฉพาะกลุ่มที่ต้องการ หรือเป็นลูกค้าในกลุ่มเป้าหมาย เพื่อการกระจายสินค้าให้ตรงจุด หรือตรงต่อความต้องการของผู้บริโภค
2) สร้างภาพลักษณ์ที่ดี
เป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่ธุรกิจ และช่วยให้สินค้าเป็นที่จดจำได้มากยิ่งขึ้น นอกจากนั้นแล้วยังสามารถใช้ช่องทางออนไลน์ในการสร้างทีมขาย หรือระบบตัวแทนจำหน่าย เพื่อกระจายสินค้าให้ผู้คนรู้จักแบรนด์มากยิ่งขึ้นอีกด้วย
3) ใช้ต้นทุนต่ำ
การตลาดออนไลน์นอกจากจะทำให้ผู้คนรู้จักสินค้า หรือซื้อบริการได้เพิ่มมากขึ้นแล้ว เรียกได้ว่าเป็นช่องทางที่ใช้ต้นทุนต่ำมากๆ อีกด้วย ในทางตรงกันข้ามก็สามารถสร้างกำไรได้อย่างมหาศาลเลยทีเดียว และเป็นผลดีมากๆ สำหรับธุรกิจขนาดเล็กที่ไม่มีเงินทุนสูงมากนัก
4) ทำการตลาดได้ 24 ชม.
อีกหนึ่งข้อดีของการทำการตลาดออนไลน์ก็คือ สามารถทำการตลาดได้ตลอด 24 ชม. ไม่มีวันหยุด เพราะบนโลกออนไลน์ไม่มีการหลับใหล ทุกคนสามารถเข้าใช้งานได้ตลอดเวลา ช่วยอำนวยความสะดวกให้การซื้อขายสามารถทำได้ตลอด 24 ชม.
5) วัดผลได้โดยง่าย
การตลาดออนไลน์สามารถวัดผลได้โดยง่ายด้วยเครื่องมือที่ถูกคิดค้นหรือพัฒนาขึ้นมารองรับบริการด้านนี้โดยเฉพาะ ยกตัวอย่างเช่น การโฆษณาบน Google Ads ที่มีระบบ Analytics สามารถโชว์ผลลัพธ์จากการทำโฆษณาทุกรูปแบบบน Google Ads ทำให้ไม่ต้องเสียเวลามานั่งวิเคราะห์ หรือพล็อตกราฟเองให้ยุ่งยาก เป็นต้น
6) สร้างความสัมพันธ์ที่ดี
การตลาดออนไลน์เป็นการทำให้เกิดความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย ไม่ว่าจะเป็นบริการให้คำปรึกษาหลังการขาย หรือบริการสอบถามปัญหาการใช้งานในทุกรูปแบบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเทคโนโลยี AI ที่เข้ามามีบทความเพิ่มมากขึ้น โดยระบบ Chabot ที่ทำหน้าพูดคุยกับลูกค้า หรือสามารถรับมือกับลูกค้าจำนวนมากได้อย่างมีประสิทธิภาพ
กิจการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ที่ต้องยื่นแบบแสดงรายการภาษี
กิจการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ที่ต้องยื่นแบบแสดงรายการภาษี
Catalog Website หมายถึง เว็บไซต์ที่ผู้ ประกอบการจัดทำขึ้นมา เพื่อทำหน้าที่เป็นห้องแสดงสินค้า รายการราคาสินค้า ประชาสัมพันธ์รายการสินค้า โปรโมชั่น ณ ช่วงเวลานั้น ทั้งนี้อาจเน้นไปทาง โฆษณาสินค้าตัวใหม่ๆ แต่ไม่ได้มีการซื้อขาย สินค้าออนไลน์แต่อย่างใด หากผู้ซื้อสินค ้าสนใจจะซื้อสินค้า จะต้องโทรศัพท์ เพื่อสั่งสินค้า ส่วนการชำร ะราคาค่าสินค้า จะเกิดขึ้นทันที ที่รับมอบสินค้า จากพนักงานส่งสินค้า ข้อสังเกต เว็บไซต์ประเภทนี้ จะไม่มีระบบ ไม่มีตะกร้าในการซื้อขาย แต่จะมีเพียงรูปภาพ หรือรายการสินค้า พร้อมราคาเท่านั้น
เว็บไซต์เพื่อการประมูลสินค้า
e-Auction (electronic auction) หรือที่เรียกว่า online auction, e-bidding, online bidding หรือ การประมูลออนไลน์ คือการประมูลสินค้า และบริการผ่านอินเทอร์เน็ต ทำให้ผู้ซื้อและผู้ขาย เห็นความเคลื่อนไหว ของราคาขณะประมูล ในแบบเรียลไทม์ (real time) โดยไม่มีข้อจำกัดเรื่องของเวลา และสถานที่เข้ามาเกี่ยวข้อง
เว็บไซต์ห้างสรรพสินค้าออนไลน์
e-Market Place หรือ Shopping Mall หมายถึง ห้างสรรพสินค้าออนไลน์ ทำหน้าที่เหมือนห้างสรรพสินค้าปกติโดยทั่วไป คือ แบ่งเนื้อที่ในเว็บไซต์ ออกเป็นขนาดเล็กๆ อาจจะจัดเป็น หมวดหมู่ โซนต่างๆ เพื่อให้ผู้ประกอบการ ที่สนใจมาเช่าหน้าร้าน เพื่อประกอบธุรกิจโดย e-Market Place จะมีระบบจัดการเว็บไซต์ร้านค้า ไว้บริการผู้ประกอบการ เช่น ระบบตะกร้าสั่งซื้อสินค้า ระบบรับชำระเงิน ระบบการตรวจเช็คสต็อก ระบบช่วยร้านค้า ประชาสัมพันธ์สินค้า ระบบเว็บบอร์ด เป็นต้น
เว็บไซต์แหล่งซื้อขายภาพดิจิทัล
Stock Photo หมายถึง ที่เก็บรวบรวมภาพถ่ายไว้ด้วยกัน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อขายภาพถ่ายนั้น การขายภาพถ่าย เป็นเพียงคุณยินยอม หรืออนุญาตให้ผู้ซื้อ ใช้ภาพถ่าย ของคุณเท่านั้น โดยคุณไม่ได้ขายขาดสิทธิ์ในภาพถ่ายดังกล่าว ดังนั้น ภาพถ่ายยังคงเป็นลิขสิทธิ์ของคุณ อยู่อย่างสมบูรณ์เช่นเดิม ซึ่งทำให้คุณสามารถ นำภาพถ่ายเดียวกันนี้ ไปขายซ้ำแล้วซ้ำอีกจะกี่เว็บไซต์ก็ได้ ส่วนภาพถ่ายที่ซื้อมานั้น ผู้ซื้อสามารถ นำไปใช้ในการพิมพ์หนังสือ การพิมพ์เอกสารในโอกาสพิเศษ นิตยสาร บริษัทโฆษณา การสร้างภาพยนตร์ นักออกแบบเว็บไซต์ ศิลปินด้านภาพ บริษัทรับตกแต่งภายใน และด้านอื่นๆ ตามต้องการ ปัจจุบัน Stock Photo ไม่ได้รับเฉพาะภาพถ่ายเท่านั้น ยังรับภาพ จากนักออกแบบผู้สร้างสรรค์ภาพ จากโปรแกรมคอมพิวเตอร์ เช่น โปรแกรม Illustrator, Photoshop อีกด้วย
การรับโฆษณาจากเว็บไซต์กูเกิ้ล
Google AdSense หมายถึง โปรแกรมการโฆษณาสินค้าที่ทาง Google เปิดโอกาสให้กับ ผู้ที่มีเว็บไซต์สามารถ สร้างรายได้ด้วยการ นำโฆษณาของ Google มาใส่ไว้ที่เว็บไซต์ โดยรายได้ จะเกิดจากการมีผู้อื่นมาเยี่ยมชม และการคลิกโฆษณานั้น ซึ่งโฆษณาต่างๆ ของ Google จะเป็นโฆษณาที่มีเนื้อหาสอดคล้อง กับเนื้อหาของเว็บไซต์ กรณีที่เว็บไซต์เกี่ยวข้องกับเกมส์ โฆษณาที่ทาง Google จะส่งมาก็จะเป็นเกี่ยวกับเกมส์ เช่นกัน
การทำให้ผลการค้นหาบนกูเกิ้ลติดลำดับแรกๆ
SEO หรือ Search Engine Optimization หมายถึง การทำให้ผลการค้นหาจาก Google แสดงข้อมูลเว็บไซต์ ติดอันดับต้นๆ ของผลการค้นหาปกติ (Natuaral Search) นักคอมพิวเตอร์สามารถทำได้ด้วยการ ปรับเว็บไซต์ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ การให้คะแนนของ Google หรือที่เรียกว่า PageRank เช่น เว็บไซต์ที่เปิดมาเป็นระยะเวลานาน ผู้เข้าเยี่ยมชม เว็บไซต์จำนวนมาก บทความบนเว็บไซต์มีการปรับปรุง ให้ทันสมัยอยู่เสมอ ไม่มีข้อความที่คัดลอกจาก เว็บไซต์อื่น เป็นต้น โดยเว็บไซต์ที่มี PageRank สูงก็จะได้อยู่ในอันดับต้นๆ ของผลการค้นหาปกติ ผู้ประกอบการที่ต้องการ ให้ผลการค้นหาของ Search engine ปรากฏบนหน้าแรก ของการค้นหา ซึ่งจะไม่เกี่ยวข้องกับ Google Adwords / Google Adsense การโฆษณาแบบนี้ ผู้ประกอบการต้องว่าจ้าง นักคอมพิวเตอร์ที่มีความชำนาญเฉพาะด้าน เป็นผู้ดำเนินการ
เว็บไซต์นายหน้าการขายสินค้าและบริการ
Affiliate Marketing หมายถึง ธุรกิจที่ใช้ระบบการขาย และชำระเงินของผู้ขาย โดยผู้ประกอบการจะชักชวนให้ซื้อสินค้าด้วยการโฆษณาข้อมูลสินค้าผ่านเว็บไซต์ของตนเองแล้วผู้ซื้อทำการคลิกผ่าน Banner หรือ Link ID เพื่อเข้าไปซื้อสินค้า/บริการ จากเว็บไซต์นั้นๆ จึงและจะได้รับผลตอบแทนค่าธรรมเนียมภายหลังการขายประสบผลสำเร็จ
เว็บไซต์เล่นเกมผ่านระบบเครือข่ายออนไลน์
Game Online หมายถึง การเล่นเกมผ่านระบบเครือข่ายออนไลน์ โดยผู้เล่นเกมออนไลน์จะต้องติดตั้งโปรแกรมClient เพื่อเชื่อมโยง กับบริษัทผู้ให้บริการเกมออนไลน์ซึ่งทำหน้าที่เป็น Server ทั้งนี้ข้อมูลต่างๆ ของผู้เล่นเกมออนไลน์จะถูกเก็บไว้ในเครื่อง Server ซึ่งทำให้ผู้เล่นเกมออนไลน์สามารถแข่งขัน และสนทนา (Chart) กับผู้เล่นรายอื่นที่อยู่ในเกมออนไลน์ได้ทันที ทั้งนี้ผู้เล่นเกมออนไลน์ จะต้องเสียค่าบริการ สำหรับการเล่นเกมออนไลน์ตามอัตราและเงื่อนไขที่บริษัทผู้ให้บริการกำหนดไว้
บัตรเติมเงินมี 3 ประเภท คือ
1. บัตรเติมเงินที่ออกโดยบริษัทผู้นำเข้า
2. เกมออนไลน์ใช้ได้เฉพาะเกมออนไลน์ที่บริษัทผู้ออกบัตรเป็นผู้ให้บริการเท่านั้น
3. บัตรเติมเงินทั่วไปใช้ในการซื้อสินค้า/บริการ ทางอินเทอร์เน็ตได้ทั่วไปในประเทศไทย เช่น บัตรเติมเงิน True Money, mPay เป็นต้น
ภาษีพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ภาษีพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
- วิธีคำนวณภาษีจากเงินได้สุทธิ (รายได้ - ค่าใช้จ่าย - ค่าลดหย่อน)
- 1) รายได้ : ถือเป็นเงินได้จากการขายสินค้าและบริการ (เงินได้ประเภทที่ 8)
- 2) ค่าใช้จ่าย : สามารถหักค่าใช้จ่ายได้ในอัตราเหมาและหักตามค่าใช้จ่ายจริง โดยขึ้นอยู่กับอัตราค่าใช้จ่ายตามที่กฎหมายกำหนดของธุรกิจแต่ละประเภท
- 3) ค่าลดหย่อน : สามารถใช้สิทธิหักค่าลดหย่อนตามกฎหมายได้ เช่น บุตร ประกันชีวิต LTF RMF ฯลฯ
- 4) คำนวณภาษี : ด้วยอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาแบบก้าวหน้า
- วิธีคำนวณภาษีจากเงินได้พึงประเมิน
- ในกรณีเราที่มีเงินได้ประเภทอื่นที่ไม่ใช่เงินเดือนจำนวนมากกว่า 60,000 บาท ให้นำยอดเงินได้คูณด้วย 0.005 และถ้าภาษีที่คำนวณได้ตามวีธีนี้ มีจำนวนไม่เกิน 5,000 บาท ได้รับยกเว้นภาษี แต่ถ้าคำนวณได้ภาษีเกินกว่า 5,000 บาท ให้เปรียบเทียบต่อครับว่า ภาษีที่คำนวณได้จากทั้งสองวิธีนั้น วิธีไหนได้จำนวนภาษีสูงกว่า ให้เลือกเสียตามวิธีนั้น
คำนวณภาษีจาก 2 วิธี แล้วให้ชำระจากยอดที่มากกว่า
* เว้นแต่คำนวณภาษวีธีที่ 2 แล้วมีภาษีไม่เกิน 5,000 บาท ให้ชำระตามวิธีที่ 1
1. แบบแสดงรายการภาษีเงินได้ครึ่งรอบระยะเวลาบัญชี (ภ.ง.ด.51) ภายใน 2 เดือน
นับจากวันสุดท้ายของทุก 6 เดือนแรกของรอบระยะเวลาบัญชี
2. แบบแสดงรายการภาษีเงินได้ (ภ.ง.ด.50) ภายใน 150 วัน นับแต่วันสุดท้ายของรอบระยะเวลาบัญชี
รายละเอียดตาม พ.ร.ฎ. (ฉบับที่ 595) พ.ศ. 2558 สำหรับรอบระยะเวลาบัญชี 1 มกราคม 2560 - 31 ธันวาคม 2560 เสียภาษีจากกำไรสุทธิ
ความแตกต่างระหว่างการค้าแบบธุรกิจทั่วไปกับการค้าแบบ E-Commerce
ความแตกต่างระหว่างการค้าแบบธุรกิจทั่วไปกับการค้าแบบ E-Commerce
แนวทางการเริ่มต้นธุรกิจ
แนวทางการเริ่มต้นธุรกิจ
1. ถามตัวเองก่อนว่ามี “ความใคร่” (Passion) ในเรื่องอะไร
2. ลงมือเขียนเกี่ยวกับตัวเองว่ามีความถนัดด้านอะไรบ้าง
3. ตัดสินใจว่าจะทำธุรกิจแบบ “B2B” หรือ “B2C”
3.1 B2B (Business-to-Business) เป็นธุรกิจที่กลุ่มลูกค้าคือตัวบริษัท องค์กร เป็นหลัก ซึ่งมุ่งเน้นการขายสินค้าและบริการที่ตอบโจทย์อีกธุรกิจหนึ่ง ทำให้อีกธุรกิจได้ประโยชน์ที่ดีขึ้น
3.2 B2C (Business-to-Customer) เป็นธุรกิจที่กลุ่มลูกค้าคือคนทั่วไป เน้นการขายแบบแมส (Mass Market) ซึ่งสินค้าและบริการจะขายให้กับรายบุคคล พูดง่ายๆ ก็คือกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค ซื้อกินซื้อใช้ อาหาร เสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่ม ยารักษาโรค ธุรกิจออนไลน์ ธุรกิจขายรถ ขายบ้าน ขายที่ดิน ฯลฯ
4. ตั้งเป้าหมายให้ชัดเจนว่าจะทำธุรกิจไปเพื่ออะไร
5. เขียนแผนธุรกิจโดยเน้นถึงยอดขาย กำไร จำนวนลูกค้า ต้นทุนการผลิต ต้นทุนการตลาด เป็นหลัก
6. ประเมินความเสี่ยงทางธุรกิจให้รอบคอบ
7. ควบคุมต้นทุนให้มีประสิทธิภาพสูงสุด
8. โฟกัสด้านการขายเป็นหลัก
ข้อดี-ข้อเสียของ E-Commerce
ข้อดี-ข้อเสียของ E-Commerce
ข้อดีของ E-Commerce
ด้วยความสะดวกสบายของอินเทอร์เน็ตที่ถูกพัฒนาเพื่อตอบสนองความต้องการด้านการสื่อสาร ส่งผลไปยังการพัฒนาการทำธุรกิจ ที่ทำให้ผู้คนทั่วโลกสามารถติดต่อสื่อสารเพื่อแลกเปลี่ยนความต้องการบางอย่างได้อย่างอิสระมากขึ้น โดยมีข้อดีหลัก ๆ ดังนี้
1) สื่อสารกับผู้บริโถคได้ง่ายด้วยอินเตอร์เน็ต
ด้วยระบบอินเทอร์เน็ตทำให้ผู้ประกอบการและผู้บริโภคสามารถแลกเปลี่ยนสิ่งที่ต้องการกันได้อย่างอิสระ การ ‘โฆษณา’ จึงกลายเป็นสิ่งที่ทำได้ง่ายมากขึ้น
2) ทำได้ด้วยตัวเอง ลดค่าใช้จ่ายด้านบุคลากร
เนื่องจากแพลตฟอร์มหรือเครื่องมือต่างๆ สามารถตอบโจทย์การทำงานค้าขายได้ทุกรูปแบบ เพียงแค่วิธีการทำงานจะต่างจากเดิม ทำให้ผู้ประกอบการสามารถควบคุมธุรกิจของตัวเองได้ด้วยตัวคนเดียว
3) มี Tool ที่ใช้สำรวจความต้องการของผู้บริโภค
ด้วยเครื่องมือต่างๆ ทำให้เราเข้าถึงความต้องการของผู้บริโภคเบื้องต้นได้ง่ายๆ ไม่ต้องออกไปทำการสำรวจด้วยตัวเอง แต่ก็ต้องอาศัยการคาดเดาพฤติกรรมผู้บริโภคจากผู้ประกอบการอยู่ดี
4) ไม่ต้องสต๊อคสินค้าก่อน
เราไม่จำเป็นจะต้องซื้อสินค้ามาเก็บแล้วรอขายเพื่อเอากำไรอีกต่อไป การทำธุรกิจแบบ E-Commerce จะเป็นลักษณะที่ เมื่อมีลูกค้าสั่งสินค้าเราถึงจะดำเนินการสั่งสินค้าและส่ง
5) เลือกกลุ่มเป้าหมายที่จะทำการโฆษณาได้
เราไม่จำเป็นจะต้องไปเสียเงินทำโฆษณาแพงๆ เพื่อให้คนเห็นเยอะๆ อีกต่อไป แทนที่เราจะทำแบบนั้นเราเลือกกลุ่มคนที่มีแนวโน้มจะสนใจสินค้าหรือการบริการของเราดีกว่า
6) เปิดขายได้จลอด 24 ชั่วโมง
ตัดปัญหาเรื่องการเปิดปิดร้านไปซะ เพราะระบบออนไลน์ไม่มีวันหลับ ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงสินค้าหรือบริการของเราได้ตลอด 24 ชั่วโมง
7) เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ทั่วโลก
ช่องทางนี้มันสามารถเข้าถึงผู้คนได้ทั่วโลกด้วยระบบอินเทอร์เน็ต เพราะฉะนั้นเราก็สามารถขายของได้ทั่วโลกโดยไม่มีข้อจำกัด แต่ก็ขึ้นอยู่กับความรู้เรื่องพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมายของผู้ประกอบการด้วย
ข้อเสียของ E-Commerce
การใช้งาน LnwShop
การใช้งาน LnwShop
เกี่ยวกับเรา
จัดทำบล็อกเพื่อเป็นสื่อประกอบการเรียนการสอน เรื่อง พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ และเป็นส่วนหนึ่งของงานโครงการ